วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มะนาวพันธุ์พิจิตร1

มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 เป็นพันธุ์มะนาวที่ได้จากการวิจัยตามโครงการวิจัยการผสมและคัดเลือกพันธุ์ มะนาวเพื่อต้านทานโรคแคงเกอร์ที่ดําเนินการ ณ ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร จ.พิจิตร โดย กรมวิชาการเกษตร ซึ่งประสบความสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์มะนาวลูกผสม มะนาวลูกผสม ที่มีชื่อว่าพิจิตร 1 (มะนาวแป้นพิจิตร ๑) ซึ่งใช้เวลาพัฒนาพันธุ์ นานถึง20ปี เป็นการผสมระหว่าง มะนาวพันธุ์ แป้นรำไพ และ มะนาวน้ำหอม สามารถต้านทานโรค แคงเกอร์ได้ดี มีใบขนาดใหญ่ และหนา กว่ามะนาวแป้นทั่วไป จึงไม่มีปัญหาหนอนชอนใบ ทำให้ช่วยลดการใช้สารเคมีต่างๆ เพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช ได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง

ผิวมะนาวพิจิตร 1 จะสวยมาก ใบจะสะอาด ซึ่งมะนาวพื้นเมืองอื่นๆในประเทศไทย จะมีปัญหาในการจำหน่ายไปยังต่างประเทศไม่ได้ เพราะจะมีโรคแคงเกอร์ (โรคแผลไหม้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย) ติดไปกับผิวมะนาว ตรงนี้คือการแก้ไขโดยที่หาพันธุ์ใหม่ที่ต้านทานโรคแคงเกอร์ เพื่อที่ให้เกษตรกรปลูกเพื่อเป็นการค้าได้ดี มะนาวพันธุ์ พิจิตร 1 มีความเหมาะสมที่จะปลูกเพื่อการค้า การส่งออก และบริโภคในครัวเรือน ต้นมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ปลูกเพียงแค่ 1 ปี ก็สามารถเริ่มให้ผลผลิตได้ และให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นเมื่อต้นมะนาวพิจิตร 1 โตขึ้น สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี

จุดเด่นของมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตร1 คือ เป็นพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่นักวิชาการเกษตรบำรุงพันธุ์ให้ทนทาน ต่อโรคแมลงทุกชนิด และยังสามารถติดผลดกในช่วงฤดูแล้งที่ผลมะนาวมีราคาแพงด้วย เกษตรกรในปัจจุบันจึงนิยมปลูกมะนาวสายพันธุ์ แป้นพิจิตรอย่างแพร่หลาย ซึ่งการพัฒนาวิจัยมะมาวที่ให้ผลผลิตดีและต้านทานโรคเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้เกษตรกร
สามารถส่งออกมะนาวได้

ปัจจุบัน กิ่งพันธุ์มะนาวแป้นพิจิตร1 สามารถหาซี้อได้ที่ ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร จ.พิจิตร หรือ หาซื้อตามร้านต้นไม้ทั่วไป ทั่วประเทศ หรือแม้แต่ในตลาดนัดสวนจตุจักร

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การทำให้มะนาว ออกผลนอกฤดูกาล


การทำมะนาวออกนอกฤดู


การทำให้มะนาวนอกฤดูนั้น ได้รับความนิยมขึ้นมากเรื่อยๆจากเกษตรกร ที่ปลูกมะนาวหลายราย เนื่องจากราคาของผลมะนาว ที่ออกผล พร้อมเก็บเกี่ยวในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูเก็บเกี่ยวมะนาว มีราคาที่สูงกว่า ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวปรกติ (สิงหาคม-ตุลาคม) หลายเท่าตัว

การทำให้มะนาวออกผลนอกฤดูนั้น ทำได้หลากหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ การปลูกมะนาว ในวงท่อซีเมนต์ ที่สามารถควบคุมปริมาณน้ำที่ให้แก่ต้นมะนาว โดยการนำพลาสติกมาคลุมป้องกันฝน นั้นเอง โดยหลักการแล้ว การทำให้มะนาวออกนอกฤดูนั้น มี 2 ปัจจัยหลักๆ ที่จะต้องทำ เพื่อให้มะนาวพร้อมที่จะ ออกดอก ออกผล นอกฤดู ก็คือ

1 บำรุง ให้อาหาร ต้นมะนาว
2 ควบคุมปริมาณน้ำ เพื่อเร่งการออก

ขั้นแรกคือ การบำรุงใส่ปุ๋ย ให้ต้นมะนาว นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต่อการทำ ให้ออกผลนอกฤดู เพราะถ้าเราเร่งให้ออกดอก แต่ต้นมะนาวไม่มีอาหาร ต้นมะนาวไม่มีความสมบูรณ์ ดอกมะนาวที่ออกก็จะร่วงหล่นในที่สุด และไม่ได้ผลมะนาว โดยเราจำเป็นต้องบำรุงต้นมะนาว ให้สมบูรณ์ ทั้งก่อนและหลังการอดน้ำ ในช่วงก่อนการบังคับให้มะนาวออกดอกในเดือน พฤศจิกายน นั้นเราควรทำการบำรุงต้นมะนาวด้วยปุ๋ย เช่น ปุ๋ย 16-16-16 และทำการตัดแต่งกิ่งมะนาว ไม่ให้หนาแน่น หรือเหลือน้อยเกินไป โดยเราต้องเลือกกิ่งที่มีความสมบูรณ์ แข็งแรงเก็บไว้

ขั้นที่2 คือการบังคับให้ออกดอก ซึ่งทำได้โดยการทำให้มะนาวอดน้ำ โดยปกติมะนาวที่ปลูกในกระถาง หรือ ในวงท่อบ่อซีเมนต์ จะใช้การคลุมพลาสติก ป้องกันน้ำจากฝน โดยเราจะทำในเดือน พฤศจิกายน เพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ในเดือน มีนาคม – เมษายน โดยการอดน้ำสำหรับตนมะนาวนั้น เราจะต้องทำให้มะนาวอดน้ำเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งจะทำให้ใบมะนาวเหี่ยว และ ร่วงลงมาประมาณ 10 เปอเซ็นต์ โดยหลังจาก 10 วันแล้วให้เราทำการรดน้ำ และใส่ปุ๋ยสะสมอาหารให้แต่ต้นมะนาวอีกครั้งเพื่อให้ต้นมะนาว แตกใบอ่อน และ ออกดอก

หลังจากนั้นให้เรากลับมาบำรุงอาหารให้ต้นมะนาว พร้อมทั้งให้น้ำ และ ใส่ปุ๋ย (12-24-12) อย่าให้ขาดจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต (ประมาณ 4 เดือน หลังจากติดผล) ซึ่งก็คือ ประมาณ เดือน มีนาคม – เมษายน นั้นเอง)
นอกจากการควบคุมน้ำต้นมะนาวโดยการคลุมพลาสติกแล้ว อาจจะใช้วิธีการควั่นกิ่งเพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงและท่ออาหารในกิ่งที่เราต้องการให้ออกผลก็ได้ โดยจะต้องไม่ควั่นกิ่งใกล้โคนกิ่งเกินไป และ ไม่ควรควั่นทุกกิ่งบนต้นมะนาว

เท่านี้เราก็จะได้มะนาวที่ออกผลผลิตในช่วงนอกฤดู ช่วงที่มะนาวมีราคาสูง แล้ว

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มะนาว ตาฮิติ

มะนาว พันธุ์ตาฮิติ เป็นมะนาวพันธุ์หนึ่งที่เริ่มมีการนิยมปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมะนาวตาฮิตินี้ เป็นพันธุ์ที่สามารถออกดอก ออกผลได้ตลอดทั้งปี และให้ผลดก ปลูกง่ายโตไว โดยไม่ต้องมีการใช้สารเคมีเพื่อเร่งการออกดอกออกผล นอกจากใส่ปุ๋ย 15-15-15 ธรรมดา ที่สำคัญ มะนาวพันธุ์นี้ยังไม่มีเม็ด และ ทนทานต่อโรคสูงอีกด้วย ผลของมะนาวตาฮิตินั้น ให้รสชาติเปรี้ยวดี ผลมะนาวมีน้ำมาก แม้ผลยังเล็กก็ตาม (แต่แนะนำว่าควรเก็บเกี่ยวเมื่อผลโตเต็มที่จะได้ราคามากกว่า) และผิวของมะนาวพันธุ์นี้ ยังมีกลิ่นหอม ซื่งนำผิวนี้ไปใช้ปรุงอาหารต่างๆ ทั้งอาหารไทยและต่างประเทศได้หลากหลายอีกด้วย

ลักษณะของผลจะยาวกว่ามะนาวที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองในบ้านเรา หรือ มะนาวแป้นที่มีลักษณะกลม แต่รสชาติในการปรุงอาหารนั้นแทบจะไม่มีความแตกต่าง จะต่างก็ตรงที่มะนาวตาฮิตินี้ มีผลที่ใหญ่กว่ามะนาวแป้นทั่วๆไป ซึ่งบางผลอาจจะใหญ่เท่าผลส้มเลยทีเดียว

ความทนทานต่อโรค นั้นจะดีมากต่อโรคได้ดีเยี่ยมโดยเฉพาะ โรค แคงเกอร์ ที่มักจะเป็นในมะนาวพันธุ์แป้นทั่วๆไปที่ปลูกในประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้ใบและผลมะนาวไหม้ เป็นแผลไม่น่ารัปทาน และยังทำให้ต้นมะนาวแห้งตายในที่สุด ทำให้ไม่จำเป็นต้องฉีดยาหรือสารเคมี อย่างไรก็ดี มะนาวพันธุ์ตาฮิติ อาจจะมีปัญหาเรื่องหนอนชอนใบบ้างเล็กๆน้อยๆ ซึ่งแทบไม่มีผลต่อผลผลิต ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

การทำมะนาวออกนอกฤดูนั้น มะนาวพันธุ์ตาฮิตินั้นทำได้เหมือนมะนาวพันธุ์อื่นๆ ทั่วไป โดยพันธุ์ตาฮิตินี้ จะมีระยะเวลาตั้งแต่ติดผลจนผลโตเต็มที่ประมาณ 5 เดือน ดังนั้นเราควรเริ่มบังคับให้เริ่มออกดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะได้ผลที่โตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวในเดือน เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มะนาวขายได้ราคาดีที่สุด